League of Legends (LoL) เป็นเกมที่ดุเดือด คาดเดาไม่ได้ และบางครั้งก็อาจทำให้เลือดขึ้นหน้า คนเราก็เลยชอบเดิมพันกับอะไรแบบนี้ แต่หากกลยุทธ์ปัจจุบันของคุณคือการเลือกทีมที่มีโลโก้ที่เจ๋งที่สุดหรือทีมที่มี Faker เพราะว่าเขาคือ Faker ผู้นั้น… อาจถึงเวลาต้องคิดทบทวนใหม่แล้วล่ะ
ไม่ว่าคุณจะเล่นเกมนี้มาตั้งแต่ซีซั่น 2 หรือแค่สนุกกับการได้เห็นผู้เล่นหัวร้อนตอนแข่ง คู่มือนี้ก็ตอบโจทย์คุณได้ เราจะเริ่มจากเรื่องพื้นฐานๆ ก่อน แล้วค่อยแจกแจงเคล็ดลับทั้ง 10 ข้อในการเดิมพัน LoL เพื่อช่วยให้คุณคิดวางแผนอย่างมีกลยุทธ์และคว้าเงินรางวัลไปได้
Contents
- 1 League of Legends คืออะไร
- 2 ทำไมหลายๆ คนถึงชอบเดิมพัน LoL
- 3 มีตลาดอะไรให้เดิมพันใน LoL บ้าง
- 4 เคล็ดลับการเดิมพัน LoL ทั้ง 10 ข้อ
- 4.1 1. รู้ว่าอะไรที่เป็นตัวตัดสินผลการแข่งขัน
- 4.2 2. อย่าดูแค่สถิติแพ้/ชนะ
- 4.3 3. ดูเกม (ใช่แล้ว แบบว่าดูจริงๆ)
- 4.4 4. รู้จักภูมิภาคที่คุณกำลังเดิมพัน
- 4.5 5. ให้ความสำคัญกับช่วงดราฟต์
- 4.6 6. คอยติดตามแพตช์และการปรับเปลี่ยนเมตา
- 4.7 7. สังเกตโมเมนตัมเกมและอาการสติแตก
- 4.8 8. ใช้สถิติได้ แต่อย่าเพิ่งแค่ตัวเลขอย่างเดียว
- 4.9 9. อย่าเดิมพันแค่กับผู้ชนะ
- 4.10 10. รู้ว่าไม่ควรลงเดิมพันเมื่อใดบ้าง
- 5 เดิมพัน LoL ด้วยคริปโต เพื่อเปิดใช้งานแพ็กเกจต้อนรับมูลค่า $2,500
League of Legends คืออะไร
League of Legends คือหนึ่งในเกมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เกมที่มีผู้เล่นลงทะเบียนกว่า 150 ล้านคน เกมที่ตั๋วรับชมการแข่งขันสดขายหมดเกลี้ยง และเกมที่มีผู้ชมการแข่งขันชิงแชมป์โลกมากกว่าซูเปอร์โบว์ล
เกมนี้เป็นเกมแนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) แบบ 5 ต่อ 5 ที่พัฒนาโดย Riot Games ผู้เล่นแต่ละคนจะได้เลือกแชมเปี้ยนที่มีมากมาย — บางตัวก็ยิงไฟได้ บางตัวก็ใช้หมัดต่อย บางตัวก็ช่วยรักษาเพื่อนๆ — ความเป็นไปได้มากมายนับไม่ถ้วน
เป้าหมายคือร่วมมือกับทีมทำลาย Nexus ของศัตรู (ว่าง่ายๆ ก็คือ “ฐาน”) ก่อนที่ศัตรูจะทำลายของคุณ
มองผ่านๆ อาจจะฟังดูโกลาหลวุ่นวาย และขอบอกเลยว่าต่อให้คุณจะเข้าใจเกมนี้มากแค่ไหน มันก็ยังโกลาหลวุ่นวายอยู่ดี แต่หากเข้าใจพื้นฐานของเกม ก็จะพบว่ามีโครงสร้างมากมายภายใต้ความบ้าคลั่งนี้ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้การรับชม (และการเดิมพัน) เป็นเรื่องสนุก
ทำไมหลายๆ คนถึงชอบเดิมพัน LoL
เราชอบเดิมพัน LoL เพราะว่าโลกของเกมนี้มันยิ่งใหญ่มาก มีเกมการแข่งขันมากมายเกิดขึ้นตลอดเวลาในลีกหลักๆ ถึง 4 รายการ รวมถึงการแข่งขันระดับนานาชาติอย่าง MSI และชิงแชมป์โลก และสำหรับนักเดิมพันหลายๆ คน LoL ให้ความรู้สึกคุ้นเคยมากกว่ากีฬาทั่วๆ ไปเสียอีก หากคุณเคยเล่นเกมนี้มาบ้าง (หรือหัวร้อนกดออกเกม) คุณก็จะเข้าใจเกมนี้ไปครึ่งทางแล้ว
- มีสิ่งให้เดิมพันเสมอ: เพราะการแข่งขันจัดขึ้นในหลายภูมิภาคและหลายโซนเวลา จึงแทบไม่มีวันไหนเลยที่จะไม่มีการแข่งขันให้เดิมพัน
- ความรู้เกี่ยวกับเกมเดิมพันสด: ทุกอย่างใน LoL เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งไฟต์อาจพลิกเกมได้เลย หากคุณรู้ดีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น คุณก็สามารถคว้าโอกาสได้ก่อนที่อัตราต่อรองจะเปลี่ยนแปลง
- ไม่ได้จำกัดให้คุณเดิมพันผู้ชนะการแข่งขันเท่านั้น: คุณสามารถเดิมพัน First Blood, จำนวนมังกรทั้งหมด, แต้มต่อการสังหาร, คะแนนในแต่ละเกม และอื่นๆ อีกมากมาย บางทีมอาจจะชนะไม่พักเลย แต่บางทีมก็สู้ไม่ยอมถอย
- สถิติเจาะลึก: คุณได้ทราบถึงข้อมูลเกี่ยวกับทีมที่มีทองนำอยู่ในช่วงต้นเกม วิสัยทัศน์บนแผนที่ การควบคุมมังกร และอัตราการชนะทีมไฟต์ หากคุณชอบค้นคว้าหาข้อมูล มีข้อมูลมากมายให้คุณหาเลยล่ะ
- ช่วยให้ดูการแข่งขันสนุกยิ่งขึ้น: การแข่งขัน LEC แบบสุ่มในวันศุกร์นั้นจะมีความสำคัญทันทีเมื่อการเดิมพันป้อมแรกที่แตกของคุณใกล้จะเป็นจริง
มีตลาดอะไรให้เดิมพันใน LoL บ้าง
การเดิมพันบางอย่างนั้นก็เรียบง่าย บางอย่างก็เฉพาะเจาะจงสุดๆ แต่ทุกอย่างก็มีเหตุผลของตัวเอง ใช่แล้ว คุณสามารถเดิมพันได้ว่าจะมีใครสักคนถูกมังกรยักษ์ฆ่าตายระหว่างเกมหรือไม่
การเดิมพันการแข่งขันพื้นฐาน
เริ่มจากตลาดง่ายๆ ตรงไปตรงมากันก่อนดีกว่า
- ผู้ชนะการแข่งขัน: ทีมที่จะชนะการแข่งขันนั้นๆ ง่ายๆ แค่นั้นเลย ในการแข่งขันแบบ Best of 3 หรือ Best of 5 หมายความว่าจะต้องชนะให้ได้ 2 หรือ 3 เกมก่อนอีกทีมจะชนะ
- ผู้ชนะเกม: การเดิมพันว่าทีมใดจะชนะเกมใดเกมหนึ่ง ซึ่งมีประโยชน์หากทีมหนึ่งโด่งดังในการเริ่มเกมอย่างแข็งแกร่งหรือแผ่วปลายในช่วงหลัง
- เกมที่เล่นทั้งหมด: การแข่งขันจะเล่นกันทั้งหมดกี่เกมกันนะ ในการแข่งขันแบบ Best of 3 ปกติแล้วจะเป็นการเดิมพันสูง/ต่ำ 2.5 หากคุณคิดว่าทีมหนึ่งจะชนะขาดลอย ให้เลือก “ต่ำ” แต่หากเป็นสองทีมที่สูสีกันและชอบโยนเกมที่ 2 ก็ให้เลือก “สูง”
- การเดิมพันแต้มต่อ: ตลาดที่ช่วยให้การจับคู่ทีมที่ต่างชั้นกันน่าสนใจยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การเดิมพันว่าทีมที่เป็นต่อจะชนะเกมที่แต้มต่อ -1.5 (ต้องชนะ 2-0 ใน Bo3) หรือเดิมพันว่าทีมรองบ่อนที่มีแต้มต่อ +1.5 จะชนะอย่างน้อยหนึ่งเกม
การเติมพันตามเป้าหมาย
ในเกมลีก การชนะไฟต์ถือเป็นเรื่องดี แต่การบรรลุเป้าหมายอย่างเช่นมังกร ป้อม และบารอน นาชอร์ คือสิ่งที่ช่วยให้ชนะเกมได้จริงๆ การเดิมพันเหล่านี้จะมุ่งเป้าไปที่ว่าใครจะคว้าสิ่งสำคัญๆ ได้ก่อน
- First Blood: ทีมที่สังหารศัตรูได้ก่อนในเกมการแข่งขัน ซึ่งปกติแล้วจะเกิดขึ้นใน 5 นาทีแรกของเกม จะเหมาะมากๆ หากทีมใดทีมหนึ่งเน้นบุกหนักตั้งแต่ต้นเกมหรือไม่ชอบให้ดักรอในป่าสุดๆ
- ป้อมแรก: ทีมใดจะพังป้อมได้ก่อน เกมที่น่าดูคือเกมที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเล่นเลนล่างตอนต้นเกมได้ดีหรือเลนบนที่ชนะได้ทุกเลน
- มังกรตัวแรก: ทีมที่สังหารมังกรธาตุตัวแรกได้ก่อน (กิ้งก่ายักษ์ที่จะมอบบัฟให้กับทั้งทีม) ทีมที่มีแผนควบคุมเป้าหมายที่ดีกว่า (หรือการหมุนเวียนที่รวดเร็วกว่า) มักจะสังหารมังกรได้ก่อน
- บารอนตัวแรก: ทีมที่จัดการบารอน นาชอร์ หนอนยักษ์สีม่วงได้ก่อน ซึ่งจะเพิ่มพลังให้กับทีมและบ่อยครั้งช่วยให้ชนะเกมได้เลย สปอยล์: ไม่แนะนำให้เดิมพันทีมที่เป็นต่ออยู่และมองเห็นแผนที่แถวๆ บารอนอยู่แล้ว
- ทีมจะสังหารมังกรได้ X ตัว: การเดิมพันมังกรอีกแบบหนึ่ง คือทีมหนึ่งสามารถจัดการมังกรได้ 3 หรือ 4 ตัวในเกมเดียวหรือไม่ ซึ่งถือเป็นการวางแผนเกมอย่างหนึ่ง เพราะหากทีมใดทีมหนึ่งควบคุมแผนที่ได้อย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำตามเป้าหมายนี้ได้
ตลาดสถิติและตลาดจำนวนการสังหาร
หากคุณไม่ได้สนใจเป้าหมายใหญ่ๆ มากนัก และชอบอะไรที่รุนแรงมากกว่า ตลาดเหล่านี้อาจเหมาะกับคุณ
- จำนวนการสังหารทั้งหมด (สูง/ต่ำ): คุณเดิมพันว่าจำนวนการสังหารทั้งหมดในเกมหนึ่งจะสูงหรือต่ำกว่าจำนวนที่กำหนด ในบางภูมิภาค (hi, LPL) มีค่าเฉลี่ยจำนวนการสังหารมากกว่า 30 ครั้งต่อเกม แต่ในบางภูมิภาค (hi, LCK) เล่นไป 40 นาที และจบด้วย 8 ครั้ง
- แต้มต่อการสังหาร: คล้ายๆ กับแต้มต่อเกม แต่เป็นจำนวนการสังหารแทน เช่น การเดิมพันว่าทีมใดจะชนะด้วยจำนวนการสังหาร +6.5 หมายความว่าทีมนั้นต้องจบเกมด้วยการสังหารมากกว่าฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อย 7 ครั้ง
- จำนวนการสังหารคู่/คี่: จำนวนการสังหารทั้งหมดในเกมจะเป็นจำนวนคี่หรือคู่ ใช่ มีตลาดแบบนี้จริงๆ และเราไม่แนะนำให้วางเดิมพันในตลาดนี้หมดหน้าตัก
การเดิมพันสด/ระหว่างการแข่งขัน
คุณสามารถเดิมพันในตลาดต่างๆ ข้างต้นได้ขณะที่เกมกำลังแข่งขันกันอยู่ อัตราต่อรองจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสังหาร ป้อม มังกร บารอน จำนวนทอง
หากคุณสังเกตดูดีๆ อาจสังเกตเห็นโอกาสพลิกกลับมาชนะก่อนที่อัตราต่อรองจะเปลี่ยนได้ หรืออาจจะตื่นตระหนก แล้วเดิมพันหลังจากไฟต์ล้มเหลว และทำให้ทุกอย่างแย่ลงก็ได้ ไม่ว่าจะทางไหน ก็ขอให้สนุก
เคล็ดลับการเดิมพัน LoL ทั้ง 10 ข้อ
1. รู้ว่าอะไรที่เป็นตัวตัดสินผลการแข่งขัน
LoL ไม่ได้ชนะโดย “ทีมที่เก่งกว่า” แต่เป็นชัยชนะของทีมที่ทำได้ดีกว่าในวันนั้น ในดราฟต์นั้น และในแพตช์นั้น เคล็ดลับการเดิมพัน LoL อันดับแรกของเราคือการทำความเข้าใจว่าอะไรบ้างที่ส่งผลต่อผลลัพธ์การแข่งขัน
- การอัปเดตแพตช์จะเปลี่ยนแปลงเมตาอยู่เรื่อยๆ ทีมที่เก่งแค่แพตช์เดียวอาจยืนระยะไม่ได้ เพราะแชมเปี้ยนที่พวกเขาใช้ประจำโดนเนิร์ฟหรือสไตล์การเล่นของพวกเขาใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปในชั่วข้ามคืน
- ช่วงดราฟต์เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ ทีมอาจชนะหรือแพ้ได้ก่อนที่เกมจะเริ่มเสียด้วยซ้ำ คอยสังเกตทีมที่ไม่มีตัวเปิดไฟต์ ทีมที่เก่งแค่ต้นเกม หรือทีมที่เลือกแชมเปี้ยนที่ตัวเองไม่ถนัด
- บางครั้งสไตล์การเล่นก็เป็นตัวตัดสินได้ ทีมที่เน้นท้ายเกมซึ่งจะชนะเกมในนาทีที่ 35 อาจแพ้ทางทีมที่บุกหนักตั้งแต่ต้นเกมแล้วตัดสินผลแพ้/ชนะไปเลยตั้งแต่นาที่ที่ 15
- การสื่อสารและความรู้ใจคือเรื่องสำคัญ คุณไม่รู้ว่าผู้เล่นเขาพูดอะไรกัน แต่ก็พอสังเกตได้ คอยสังเกตดูทีมไฟต์ที่สะเปะสะปะหรือการตายคนเดียวโดดๆ ก็น่าจะพอเดาได้ว่าใครไม่ยอมฟังทีม
ดังนั้นก่อนที่คุณจะคลิก “เดิมพัน” ให้ถามตัวเองก่อนว่า ทีมนี้เหมาะกับเมตาหรือไม่ ทีมสามารถดราฟต์ได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ และทีมรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่หรือไม่ หากคำตอบคือ “ไม่ใช่” ก็ลองคิดทบทวนใหม่ดีกว่า
2. อย่าดูแค่สถิติแพ้/ชนะ
ทีมที่อยู่บนหัวตารางไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเก่ง บางทีพวกเขาอาจฟาร์มแต้มมาจากคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอในช่วงต้นการแข่งขันก็ได้ บางทีพวกเขาอาจแค่เจอแพตช์ที่ไม่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเองก็ได้ หรือบางทีผู้เล่นเลนกลางของทีมตัดสินใจอยากตายก่อนเพื่อนก็ได้
ประเด็นก็คือ สถิติไม่ได้บ่งบอกทุกอย่าง
ทีมที่ทำมีสถิติ ชนะ 7 – แพ้ 3 นั้นอาจดูดี จนกว่าคุณจะได้รู้ว่าพวกเขาชนะมา 7 ครั้ง เพราะเจอกับทีมที่รั้งอันดับ 7-10 และแพ้ทุกแมตช์ให้กับทีมครึ่งบนของลีก
คุณต้องเจาะลึกลงไป
- ดูว่าทีมชนะใครมาบ้าง — เป็นทีมที่สูสีกันหรือเปล่า
- ดูว่าทีมชนะมาอย่างไร — วางแผนมาอย่างดีไหม ควบคุมให้เป็นไปตามเป้าหมายไหม หรือทีมไฟต์มั่วๆ ซั่วๆ และคู่ต่อสู้โยนเกมหรือเปล่า
- ดูตอนที่ทีมชนะ — เพราะการเริ่มต้นที่ดีไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก หากแพ้ติดกัน 3 เกม ตั้งแต่อัปเดตแพตช์ล่าสุด
บริบทก็สำคัญ ทีมที่ฟอร์มตกหลังผ่านแพตช์ใหม่หรือเข้ารอบเพลย์ออฟแบบเส้นยาแดงผ่าแปดนั้นต่างจากทีมที่หาฟอร์มเก่งของตนในเวลาที่เหมาะสมได้ ผลการแข่งขันล่าสุดสำคัญกว่าสถิติรวม ดังนั้นให้พิจารณารายละเอียดเหล่านั้นด้วย
หากคุณดูแค่ผลแพ้/ชนะ คุณก็พลาดแล้วล่ะ
3. ดูเกม (ใช่แล้ว แบบว่าดูจริงๆ)
คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิเคราะห์ และไม่จำเป็นต้องแยกแยะรายละเอียดทุกเวฟหรือทุกรูปแบบการเดินป่า แต่ถ้าคุณเดิมพันและไม่ได้ดูทีมที่คุณเดิมพันเลย ก็ถือว่าพลาดส่วนสำคัญที่สุดไปแล้ว
สถิติมีประโยชน์ก็จริง แต่ก็ไม่ได้บอกว่า ADC คอยสุ่มตรวจพุ่มไม้ในนาทีที่ 25 หรือเปล่า ผู้เล่นตำแหน่งป่าดูไร้จุดหมายโดยไม่กดดันคู่ต่อสู้ในช่วงต้นเกมเลยหรือเปล่า หรือทีมจัดเต็มทุกอย่างใส่บารอนราวกับว่าไม่เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า
คุณจะเห็นสิ่งที่ตัวเลขบอกไม่ได้ เช่นผู้เล่นซัพพอร์ตที่ไม่ค่อยจะเข้ากับทีมสักเท่าไร หรือผู้เล่นเลนกลางที่เก่งแชมเปี้ยนแค่ตัวเดียว ตัวอื่นกลายเป็นไก่อ่อน
แม้จะดูแค่เกมล่าสุดของแต่ละทีม ก็สามารถบอกคุณได้มากกว่าสถิติใดๆ แล้ว ช่วยให้คุณเห็นว่าทีมเล่นกันอย่างไร ไม่ใช่แค่ว่าชนะหรือเปล่า
4. รู้จักภูมิภาคที่คุณกำลังเดิมพัน
LoL แต่ละที่นั้นเล่นไม่เหมือนกัน แต่ละภูมิภาคจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง ซึ่งสไตล์การเล่นนั้นส่งผลอย่างมากต่อวิธีการเล่นและสิ่งที่ควรเดิมพัน
- LCK (เกาหลี) เน้นเกมช้า คำนวณมาอย่างดี และปลอดภัยไว้ก่อน ทีมจะให้ความสำคัญกับวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และทีมไฟต์ในช่วงท้ายเกม ถ้าคุณเดิมพันกับจำนวนเดิมพันล่ะก็ ขอให้โชคดี
- LPL (จีน) นั้นตรงกันข้ามเลยล่ะ เพราะจะเน้นปะทะตลอดเกม บุกหนักตั้งแต่ต้นเกม และฆ่ากัน 40 ตัวใน 30 นาที เหมาะสำหรับตลาด First Blood และจำนวนการสังหารรวม
- LEC (ยุโรป) เป็นการผสมผสานที่แปลกประหลาดระหว่างสกิลการเล่นขั้นเทพ แต่บางครั้งก็พลาดง่ายๆ จนไม่อยากจะเชื่อ ช่วงดราฟต์นั้นดูสร้างสรรค์ (บางครั้งก็สร้างสรรค์เกินไป) และเกมสามารถพลิกได้ในเสี้ยววินาที
- LCS (อเมริกาเหนือ) นั้น… ไม่แน่ไม่นอน วันนี้ดูจัดแผนมาอย่างดี แต่วันต่อมากลับบุกหนักทำลายฐานในนาทีที่ 25 และเดินป่าแปลกๆ ไม่สมเหตุสมผล
5. ให้ความสำคัญกับช่วงดราฟต์
ดราฟต์คือช่วงก่อนเกมเริ่มที่แต่ละทีมจะผลัดกันเลือกและแบนแชมเปี้ยน ซึ่งจะตัดสินว่าผู้เล่นทั้ง 5 คนจะเลือกใช้แชมเปี้ยนตัวใด และส่วนใหญ่มักจะเป็นการตัดสินว่าเกมจะดำเนินไปอย่างไรด้วย
บางทีมก็เน้นเลือกแชมเปี้ยนที่เก่งท้ายเกม บางทีมก็เน้นกดดันตั้งแต่ต้นเกมไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามโงหัวขึ้นมาได้ ทีมที่เลือกดราฟต์ได้ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ส่วนทีมที่เลือกได้ไม่ดี ก็อาจมีตัวเลือกให้คุณได้เดิมพันอยู่บ้าง
คุณจะต้องสังเกตดูความแตกต่าง คอยสังเกตทีมที่ไม่มีตัวเปิดไฟต์ ทีมที่ดาเมจรวมดูแปลกๆ หรือทีมที่เลือกแชมเปี้ยนนอกเมตา บางทีมก็ยืนกรานจะเล่นแบบเดิมกับเดือนก่อน แม้จะมีแพตช์ที่เปลี่ยนทุกอย่างไปแล้วก็ตาม ซึ่งนั่นไม่ใช่กลยุทธ์ แต่คือการแพ้โดยเปล่าประโยชน์
หากคุณดูช่วงดราฟต์อยู่แล้วคิดว่า “เลือกทีมแบบนี้จะไปสู้อะไรได้” ก็ให้เชื่อสัญชาตญาณของคุณได้เลย อัตราต่อรองอาจจะเทหนักไปทางทีมนั้นอยู่บ้าง แต่การดราฟต์นั้นไม่เอื้อแน่นอน
6. คอยติดตามแพตช์และการปรับเปลี่ยนเมตา
Riot จะปล่อยแพตช์ใหม่ทุกสองสามสัปดาห์ บางครั้งก็แค่ปรับตัวเลขนิดๆ หน่อยๆ แต่บางครั้งก็เปลี่ยนวิธีเล่นเกมไปเลย
หากมีแพตช์ใหม่ก่อนการแข่งขันไม่กี่วัน อาจทำให้ทีมต่างๆ ไม่ทันตั้งตัวได้ ทีมที่เคยใช้ได้ผลเมื่อสัปดาห์ก่อน อาจใช้ไม่ได้ผลแล้วในสัปดาห์นี้ แชมเปี้ยนที่เคยถูกมองข้ามอาจกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ หรือถูกแบนถาวรไปเลย
บางทีมก็ปรับตัวได้เร็ว แต่บางทีมก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักจึงจะเข้าใจ และนั่นแหละคือจุดเปลี่ยน
ก่อนเดิมพัน ตรวจดูให้ดีว่ามีแพตช์ใหม่มาหรือไม่ แล้วส่งผลกับเมตาไหม หากคุณตามข่าวไม่ทัน คุณอาจเดิมพันกับทีมที่ตามหลังคู่แข่งอยู่ก็ได้
7. สังเกตโมเมนตัมเกมและอาการสติแตก
LoL คือเกมเล่นเป็นทีมและต้องใช้จิตใจที่แข็งแกร่งมากๆ ด้วย แพ้ไม่เป็นท่าครั้งหนึ่งหรือสู้ไฟต์ผิดพลาดครั้งหนึ่ง อาจได้เห็นทีมแตกกระจายได้เลย
ในการแข่งแบบ Best-of-Three หรือ Best-of-Five เรื่องนี้สำคัญมาก บางทีมก็กลับมาได้หลังจากแพ้ไป แต่บางทีมก็จิตหลุดไปเลย เลือกดราฟต์พังไม่เป็นท่า ไม่มีคนสั่งการ แล้วก็เริ่มไล่ฆ่าฝ่ายตรงข้ามแบบหน้ามืดตามัว ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น
สังเกตดูว่าทีมรับมือกับความกดดันอย่างไร สามารถกลับมาหลังจากพ่ายแพ้หรือพังไม่เป็นท่าได้ไหม ซึ่งจะช่วยบอกคุณได้มากกว่าอัตราต่อรองก่อนเริ่มการแข่งขัน
หากคุณเดิมพันเกมสดและสังเกตเห็นว่าทีมหนึ่งดูจะสั่นสะเทือนหลังจบเกมแรก คิดให้ดีถ้าจะเดิมพันว่าทีมนั้นจะกลับมาได้หรือไม่ เพราะบางทีมก็ไม่มีกึ๋นมากพอ
8. ใช้สถิติได้ แต่อย่าเพิ่งแค่ตัวเลขอย่างเดียว
สถิตินั้นมีประโยชน์ก็จริง แต่บอกเล่าเรื่องราวเพียงบางส่วนเท่านั้น ทีมหนึ่งอาจมีสถิติดูดีในช่วงต้นเกม เช่น จำนวนทองนำในช่วง 15 นาที, อัตรา First Blood, การคุมป้อม แต่ก็ยังคงแพ้เกมเพราะไม่ยอมสังหารบารอนเลย
ดูสถิติที่ตรงกับการเล่นของทีม:
- คุมเลนดีไหม ดูที่จำนวนทองช่วงต้นเกมและการมีส่วนร่วมในการสังหารศัตรู
- วางแผนมาดีไหม ดูจำนวนมังกรและการควบคุมเป้าหมาย
- ชนะมาแบบทุลักทุเลหลายครั้งไหม ดูที่อัตราชนะทีมไฟต์และการแชร์ดาเมจ
ให้หาข้อมูลของคุณเองควบคู่กับสถิติเสมอ หากตัวเลขดูดี แต่การเล่นดูไม่ได้ ให้เชื่อสิ่งที่คุณเห็นดีกว่า
9. อย่าเดิมพันแค่กับผู้ชนะ
หากคุณเดิมพันแค่กับผู้ชนะการแข่งขัน ก็ปล่อยโอกาสอีกมากมายหลุดมือไปแล้ว
บางทีแพ้เกมก็จริง แต่ได้ First Blood บางทีมคุมต้นเกมได้อยู่หมัด แต่ปิดเกมไม่ได้ บางทีมวางหมากมาอย่างดี จัดการมังกรได้หมด แต่ก็ยังแพ้อยู่ดี
เราจึงมีตลาดอย่างจำนวนการสังหารรวม การเดิมพันตามเป้าหมาย และแต้มต่อ หากคุณเข้าใจสไตล์การเล่นของทีม ก็สามารถเลือกตลาดการเดิมพันที่เหมาะกับทีมได้ และบางครั้งอาจให้ผลตอบแทนดีกว่าการเดิมพันทีมที่ชนะเสียด้วยซ้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันที่สูสี การเดิมพันที่ถูกต้องมักได้ผลดีกว่าการเลือกผู้ชนะเสียอีก
10. รู้ว่าไม่ควรลงเดิมพันเมื่อใดบ้าง
เกมนี้น่าเบื่อ แต่สำคัญ
หากการแข่งขันใดดูเละเทะยุ่งเหยิงไปหมด ก็ข้ามไปได้ ไม่ว่าจะเป็นแพตช์ใหม่ สองทีมที่ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ เพิ่งประกาศเปลี่ยนผู้เล่น เลือกดราฟต์ไม่ชัดเจน หลีกทางไปจะดีกว่า
เพราะยังมีการแข่งขันครั้งต่อไปเสมอ และอาจจะเป็นในอีกไม่กี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ ไม่จะเป็นต้องเดิมพันแค่เพราะว่าเป็นเกมสด
การรู้ว่าเมื่อใดไม่ควรเดิมพันคือสิ่งที่ทำให้นักเดิมพันระยะยาวต่างจากคนที่ไล่ล่าทุกการเสี่ยงโชค อยู่เฉยๆ ได้ เพื่อเก็บเงินเอาไว้เดิมพันกับเกมที่ดูควรค่ามากกว่า
เดิมพัน LoL ด้วยคริปโต เพื่อเปิดใช้งานแพ็กเกจต้อนรับมูลค่า $2,500
ตอนนี้คุณได้เรียนรู้เคล็ดลับการเดิมพัน LoL ชั้นยอดไปแล้ว ก็ควรเอาไปใช้ด้วย และเพื่อให้ดูน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น หากคุณเล่นด้วยคริปโตที่ Cloudbet คุณจะได้รับแพ็กเกจต้อนรับมูลค่า $2,500 ซึ่งเราจะคืนเงินให้คุณ 10% จากทุกการเดิมพัน พร้อมรางวัลเงินสดทุกวันเป็นเวลา 30 วัน เอาไว้เพิ่มเงินทุนของคุณ
ที่คุณต้องทำก็แค่ลงทะเบียน เดิมพันด้วย Bitcoin, Ethereum, USDT หรือคริปโตอื่นๆ ที่รองรับ และรับแพ็กเกจต้อนรับไปได้เลย แถมยังทำธุรกรรมได้รวดเร็วและปลอดภัยอีกด้วย เนื่องมาจากเทคโนโลยีบล็อกเชน